เอ็นไซม์ คือ โปรตีน ซึ่งมีรูปร่างเป็น กรดอะมิโน (Amino Acid) มีคุณสมบัติเร่งปฏิกิริยาเคมีที่มีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต จนอาจกล่าวได้ว่า ถ้าหากร่างกายของเราขาดเอ็นไซม์ หรือ เอ็นไซม์หยุดทำงาน ชีวิตก็จะดับสิ้นไป
เอ็นไซม์ แบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
- เอ็นไซม์จากอาหาร (Food Enzyme) จะพบได้ในอาหารดิบทุกชนิด ถ้ามาจากพืชเราเรียกว่า เอ็นไซม์จากพืช (Plant Enzyme) และถ้ามาจากสัตว์ เราเรียกว่า เอ็นไซม์จากสัตว์ (Animal Enzyme) ถ้าอาหารที่นำมาปรุงแต่งโดยใช้ความร้อน จะทำลายเอ็นไซม์ในอาหารได้โดยง่าย ความร้อนเกินกว่า 118 องศาฟาเรนไฮด์ จะทำลายเอ็นไซม์ และอาหารที่ไม่มีเอ็นไซม์แล้ว เราเรียกว่า อาหารที่ตายแล้ว
- เอ็นไซม์ย่อยอาหาร (Digestive Enzyme) เป็นเอ็นไซม์ที่ผลิตโดยร่างกาย ส่วนใหญ่ผลิตจากตับอ่อน เพื่อใ้ช้ย่อยและดูดซึมอาหารที่เรากิน ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร
- เอ็นไซม์ในการเผาผลาญพลังงาน (Metabolic Enzyme) เป็นเอ็นไซม์ที่ผลิตในเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อการเผาผลาญสารอาหารและสร้างพลังงาน สร้างภูมิต้านทาน สร้างความเจริญเติบโต ตลอดจนซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะต่างๆ
ชีวิตจะอยู่ได้ไม่ยืนยาวถ้าขาดเอ็นไซม์ เพราะไม่มีปฏิกิริยาเคมี
ฉะนั้น หน้าที่สำคัญของเอ็นไซม์ คือ
- ช่วยย่อยอาหารที่เรากินเข้าไปให้กลายเป็นสารอาหารขนาดเล็ก พอที่จะถูกดูดซึมผ่านลำไส้เข้ากระแสโลหิตเพื่อนำไปสร้างกล้ามเนื้อ
- ผลิตฮอร์โมน
- สร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- เผาผลาญพลังงานและย่อยสลายไขมัน
- ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- ป้องกันการติดเชื้อและอักเสบ
- ขจัดสารพิษของร่างกาย
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ทำให้ฮอร์โมน วิตามิน เกลือแร่และสารอื่นๆ ทำงานตามคุณสมบัติ กินมากเท่าไหร่ ก็นำไปใช้ไม่ได้ถ้าเอ็นไซม์บกพร่อง
- สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสร้างเอ็นไซม์ขึ้นมาใช้เองด้วยความสามารถในการผลิตที่แตกต่างกัน
- เอ็นไซม์เป็นตัวเร่งในการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีคุณภาพ ถ้าย่อยได้ไม่ดี ถึงกินอาหารที่ดีก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
- เอ็นไซม์ควบคุมและเร่งปฏิกิริยาเคมีทุกชนิด ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดช้าจนชีวิตไม่สามารถรอได้
- เอ็นไซม์แต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะตัวและทำปฏิกิริยาเคมีจำเพาะกับสารตั้ง ต้นที่ถูกกำหนดเท่านั้น เอ็นไซม์ชนิดย่อยแป้งจะไม่ย่อยโปรตีน เอ็นไซม์ชนิดย่อยไขมันจะไม่ย่อยแป้ง
- เอ็นไซม์ถูกทำลายโดยง่ายที่ความร้อนสูงเกิน 118 องศาฟาเรนไฮด์ หรืออาจกล่าวได้ว่า เอ็นไซม์เปราะบางมาก
- การแช่แข็ง ไม่ทำลายความสามารถของเอ็นไซม์
- การขาดเอ็นไซม์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไม่รักษาสุขภาพของตนเอง บางกรณีเกิดจากปัญหากรรมพันธุ์
- เอ็นไซม์ที่มีระดับต่ำ (Low Enzyme Level) ในร่างกายสัมพันธ์กับโรคของความเสื่อมต่างๆ (ถ้าเอ็นไซม์ต่ำมาก โรคแห่งความเสื่อมก็เกิดขึ้นมากตาม)
อาการที่ท่านรู้สึกด้วยตัวเอง (Symptom) ว่าน่าจะขาดเอ็นไซม์ คือ
- รู้สึกเหนื่อยหลังจากกินอาหารมื้อหนักๆ
- อ่อนเพลียเป็นประจำ
- ท้องผูก
- ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ บางครั้งมีอาการจุกเสียด
- ลมแน่นท้อง ผายลมมีกลิ่นเหม็น
- อุจจาระจมน้ำ และมีกลิ่นเหม็นมาก
- มีกลิ่นปาก
- มีอาการของโรคภูมิแพ้ง่าย บางครั้งถึงขนาดหอบหืด
- เวลาเป็นแผลจะหายช้า
- น้ำหนักตัวเพิ่มง่าย
- ตับอ่อนบวม
- เม็ดโลหิตขาวเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติหลังกินอาหาร 30 นาที
- น้ำลายมีฤทธิ์เป็นกรด (pH ต่ำกว่า 7)
- ในปัสสาวะมีสารพิษมาก เกิดจากอาหารไม่ย่อย จึงบูดและเน่าในลำไส้ใหญ่ ร่างกายจะดูดซึมพร้อมกับน้ำเข้าไปในกระแสเลือด ตับและไตจะกรองสารพิษเอาไว้ จากนั้นจะขับสารพิษออกทางปัสสาวะ จึงทำให้ตรวจพบปริมาณสารพิษสูงในปัสสาวะ
- ระดับเอ็นไซม์ต่ำกว่าปกติในเลือด
- ความดันโลหิตอาจสูงขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็งแรง
- มีภูมิต้านทานอ่อน ภูมิแพ้ เป็นหวัดง่าย และมักติดเชื้อง่าย เช่น วัณโรค, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
- ผู้ป่วย ก่อนและหลังผ่าตัด
- สตรี ก่อนและหลังคลอด
- ประสิทธิภาพตับไม่ดี เหนื่อยง่าย เช่น ตับอักเสบ
- มีประสาทอ่อนไม่ปกติ ตกใจง่าย เบื่ออาหาร
- โรคกระเพาะอาหาร อาหารย่อยยาก ท้องอืดบ่อยๆ
- กระเพาะลำไส้ไม่ดีแต่กำเนิด ผอมแห้ง แรงน้อย
- การทำงานของประสาทไม่เต็มที่ มักสะลึมสะลือ กะปรกกะเปลี้ย
- ร่่างกายแก่ก่อนวัย เจ็บป่วยง่าย
- มีอาการติดเชื้อแปลกๆ เจ็บออดๆแอดๆ
- มีภาวะเสี่ยงต่อโรคกรรมพันธุ์ เช่น เบาหวาน, มะเร็ง, ปัญญาอ่อน, Thalassemia เป็นต้น
- ลำคอและหัวไหล่แข็ง
- เมาค้าง อ่อนเพลีย
- โลหิตจาง
- ความดันโลหิตต่ำ มือเท้าเย็นชา
- ผิวหนังหยาบกร้าน
- ประจำเดือนผิดปกติ ปวดประจำเดือน แท้งลูกง่าย
- โรควัยทอง ระดูขาว
- มดลูกหย่อน เนื้องอกในมดลูก เป็นซีสต์ในรังไข่
- ฮ่องกงฟุต